หากคุณใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 7, 8 และ Windows 10 คุณควรเปิดใช้งานคุณสมบัติ Windows Update Microsoft ออกแพตช์ใหม่และการอัปเดตฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยสำหรับระบบปฏิบัติการ Windows เป็นประจำ
1. ติดตั้ง Microsoft Security Essentials (โปรแกรมป้องกันไวรัส)
Microsoft security Essentialsคือโปรแกรมป้องกันไวรัสฟรีของ Microsoft สำหรับผู้ใช้ Windows Microsoft Security Essentials จะทำการสแกนคอมพิวเตอร์ Windows ของคุณเพื่อลบไวรัส ซอฟต์แวร์ที่ไม่พึงประสงค์ โทรจัน และไฟล์ที่เป็นอันตราย
นอกจากนี้ Microsoft Security Essentials ยังได้รับการอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดจากการอัปเดต Windows อยู่เสมอ ดังนั้นระบบของคุณจึงอยู่ในสถานะที่ปลอดภัยอยู่เสมอ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกไวรัสหรือโทรจันโจมตี
2. อัพเดต Windows อยู่เสมอ
หากคุณใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 7, 8 และ Windows 10 คุณควรเปิดใช้งานคุณสมบัติ Windows Update Microsoft ออกแพตช์ใหม่และการอัปเดตฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยสำหรับระบบปฏิบัติการ Windows เป็นประจำ
การอัปเดตแพทช์และแพ็คเกจความปลอดภัยใหม่จะปกป้องคอมพิวเตอร์ของคุณจากการโจมตี การบุกรุกของไวรัส และการหาประโยชน์
3. รันแอปพลิเคชั่นใหม่บนเครื่องเสมือนก่อนทำการติดตั้งบนระบบ
คุณจะไม่สามารถคาดการณ์อันตรายได้เมื่อคุณคลิกเพื่อดาวน์โหลดซอฟต์แวร์หรือแอปพลิเคชันบางอย่างบนอินเทอร์เน็ตหรือบนเว็บไซต์ที่ไม่ทราบแหล่งที่มาลงในคอมพิวเตอร์ของคุณแล้วติดตั้ง
บางครั้งซอฟต์แวร์ดังกล่าวจะ "แนบ" ไวรัสและโทรเจียนซึ่งคุณไม่สามารถทราบล่วงหน้าได้ ดังนั้นด้วยซอฟต์แวร์และแอพพลิเคชั่นที่ไม่คุ้นเคย ก่อนทำการติดตั้งบนระบบ ควรลองติดตั้งบนเครื่องเสมือนก่อน (Virtual Machine)
เครื่องเสมือนรันซอฟต์แวร์ของคุณในสภาพแวดล้อมเสมือนจริง ดังนั้นมัลแวร์จึงไม่โจมตีคอมพิวเตอร์ของคุณโดยตรง
4. ไฟร์วอลล์ (ไฟร์วอลล์)
เปิดใช้งานไฟร์วอลล์บนระบบของคุณเสมอ ในกรณีที่คุณใช้โปรแกรมป้องกันไวรัส เช่นKasperskyหรือAvastโปรแกรมเหล่านี้มักจะรวมไฟร์วอลล์ไว้ด้วย
หากคุณไม่ได้ใช้โปรแกรมป้องกันไวรัสเหล่านี้ คุณสามารถเปิดใช้งานไฟร์วอลล์บนระบบได้
เมื่อคุณติดตั้งซอฟต์แวร์ใหม่บนระบบ ระบบจะตรวจสอบกฎไฟร์วอลล์ของซอฟต์แวร์นั้น
5. อย่าโง่พอที่จะเปิดอีเมลและเว็บไซต์ที่ไม่ทราบที่มา
เมื่อท่องเว็บ ขอแนะนำว่าอย่าโง่พอที่จะคลิกเพื่อเปิดเว็บเพจที่ไม่ทราบที่มา ใครจะรู้บางทีในลิงค์ของเว็บไซต์นั้นอาจมีไวรัสและโทรเจียนอยู่มากมาย
และควรใช้เบราว์เซอร์ Chrome ท่องเว็บอย่างปลอดภัยจะดีกว่า หากคุณคลิกเว็บไซต์ที่เป็นอันตรายโดยไม่ตั้งใจ Chrome จะแสดงหน้าต่างคำเตือนเพื่อแจ้งให้คุณทราบ
นอกจากนี้ อย่าคลิกลิงก์ที่ซ่อนอยู่ในอีเมลด้วยความอยากรู้ เนื่องจากเป็นลิงก์ที่มีไวรัสที่อาจเป็นอันตรายต่อระบบของคุณได้
6. รักษาระยะห่างจากเว็บไซต์ปลอม
หลายครั้งที่เราเยี่ยมชมเว็บไซต์บางแห่งเราไม่สามารถรู้ได้ว่าเว็บไซต์นั้นปลอดภัยหรือไม่? อย่างไรก็ตาม หากคุณเยี่ยมชมเว็บไซต์บางแห่งและเห็นหน้าต่างป๊อปอัปโฆษณาจำนวนมากปรากฏขึ้นบนหน้าจอ ให้ลองคิดถึงความเสี่ยงที่เว็บไซต์นั้นน่าจะเป็นเว็บไซต์ปลอม
ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดในการ "รักษาระยะห่าง" จากเว็บไซต์เหล่านี้คือการดูไอคอนแม่กุญแจสีน้ำเงินเล็กๆ ในแถบที่อยู่ซึ่งมีคำนำหน้า "http" เพื่อยืนยันว่าเพจนั้นเป็นเพจปลอมหรือไม่ ?
7. ใช้เบราว์เซอร์ที่เชื่อถือได้
เบราว์เซอร์ Internet Explorer มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยจำนวนหนึ่ง ดังนั้นแฮกเกอร์จึงสามารถใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนเหล่านี้เพื่อโจมตีระบบของคุณทุกวัน ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือการใช้เบราว์เซอร์ที่เชื่อถือได้และปลอดภัย เช่น Google Chrome หรือ Mozilla Firefox
8. สแกนหาไวรัสและโทรจันทุกครั้งเมื่อเสียบ USB เข้ากับคอมพิวเตอร์ของคุณ
ทุกครั้งที่คุณใส่การ์ดหน่วยความจำ เพนไดรฟ์ หรือ USB ลงในคอมพิวเตอร์ อย่าลืมใช้โปรแกรมป้องกันไวรัสเพื่อสแกนหาไวรัสก่อน หลายครั้งที่ไวรัสซ่อนตัวอยู่ใน Pendrives และสื่อบันทึกข้อมูลอื่นๆ
9. การสำรองข้อมูลระบบ
นี่เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด การสำรองข้อมูลระบบจะช่วยปกป้องข้อมูลสำคัญของคุณในกรณีที่ระบบของคุณถูกโจมตีโดยไวรัสหรือฮาร์ดแวร์ล้มเหลว
อ้างถึงบทความเพิ่มเติมด้านล่าง:
- จะรู้ได้อย่างไรว่าคอมพิวเตอร์ของคุณถูก "โจมตี" โดยแฮกเกอร์?
ขอให้โชคดี!